ในที่สุดเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2548 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้วันที่ 2 เมษายน ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็น "วันหนังสือเด็กแห่งชาติ" ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ซึ่งสอดคล้องกับที่คณะกรรมการนานาชาติด้านหนังสือเด็กและเยาวชน (International Board on Book for Young People – IBBY) ได้ประกาศให้วันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นวันเกิดของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซนเป็น “วันหนังสือเด็กสากล”เพื่อเชิดชูเกียรตินักเล่านิทานชื่อก้องโลก ชาวเดนมาร์ก ผลงานของท่านผู้นี้ที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กทั่วโลก เช่น ‘ต้นสน’, ‘เด็กหญิงไม้ขีดไฟ’, ‘เงือกน้อย’, ‘ราชินีหิมะ’, ‘ไนติงเกล’, ‘กล่องชุดจุดไฟ’,‘ลูกเป็ดขี้เหร่’, ‘ชุดใหม่ของจักรพรรดิ’ (‘แต่พระองค์ไม่ทรงสวมเลยสักชิ้น!’) ฯลฯ ท่านผู้นี้เรียกบรรดานิทานสำหรับเด็กที่ตนเขียนว่า “เรื่องเล่นๆ” แต่เป็นงานที่ชาวโลกประทับใจและยกย่องให้เป็นงานยอดเยี่ยม ทั้งเชิดชูเขาไว้ในระดับเดียวกับโฮเมอร์, ดันเต้, เชกสเปียร์, เซอร์บันเตส และเกอเธ่
ในปี พ.ศ.2548 นับเป็นปีมหามงคลที่ทรงมีพระชนมายุ 50 พรรษา กระทรวงศึกษาธิการจึงเห็นสมควรน้อมเกล้าฯ ถวายพระเกียรติ โดยรัฐบาลกำหนดให้วันที่ 2 เมษายน เป็น "วันหนังสือเด็กแห่งชาติ" เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงส่งเสริมการอ่าน ทรงประพันธ์บทพระราชนิพนธ์สำหรับเด็กและเยาวชนมาแต่ครั้งทรงพระเยาว์ พระปรีชาสามารถทางด้านอักษรศาสตร์เป็นที่ประจักษ์แก่ปวงชนชาวไทยและชาวต่างประเทศ ประกอบกับเป็นการสะท้อนให้เห็นความตั้งใจในการรณรงค์ส่งเสริมการอ่านและพัฒนาหนังสือสำหรับเด็ก รวมทั้งพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้
เมื่อ หนังสือเด็ก ได้รับการดูแลขนาดนี้แล้ว ก็เป็นโอกาสของพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะช่วยส่งเสริมให้ลูกได้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะสร้างวัฒนธรรมการอ่านของประเทศ
.jpg)
.jpg)
